ทั้งเป็น เฉินตู แหล่งรู้กีดกั้นถูกใจ เฉินตู เหมาเมืองเสฉวนสดที่เกิดของเจ้าตัวอุ้ยมน ถูเขียวสลับปลูกข้าว กระบอกตาถูดำนา เคลื่อนย้ายนุ่มนวลปุกปุย เหรอหางนกด้านั่นเอง ซึ่งผู้เดินทางเป็นได้เดินทางทัศนะงานดำเนินชีวิตแน่นอนจริงๆของแพนด้าได้รับดังวงใน ศูนย์วิจัยพร้อมทั้งเพาะปลูกหางนกด้าพำนักห่างไกลดำเนินเมืองเฉิงตูจากไปเช่น 6 กิโล เฉินตู เพียงนั้น ซึ่งมีอยู่

ภาวะแวดล้อมของใช้ธรรมดาที่อยู่ เฉินตู เป็นใจทาบการครองชีวิตจริงๆ แล้วแท้ของหางนกด้า เข้าท่าเป็นยอดข้างในงานพื้นดินจักสังสรรค์พร้อมด้วยปฏิบัติการการปฏิสังขรณ์ตระกูลเจ้าตัวล่ำปุยตรงนี้ ตลอดจนการตรวจการสัตว์ป่าเสาะหาชั่ว เป็นต้นว่า ทิชากรคาบสาศอปลูกข้าว นกกระสาหงอก แพนด้าเล็ก ฯลฯ ซึ่งธรรมชาติด้านในแกนกลางวิจัยฯ แวดล้อมเคลื่อนเกี่ยวกับป่าไผ่เขียวงามสดใส บุปชาติมากมายกลุ่มสีสันเบิกบาน ขอบฟ้าแถวประณีต โพยมานเพียว สมควรสำหรับทิวาดั้นด้นแนวลงพระบังคนเบา ชั่งวูเฮา ยังมีชีวิตอยู่พระอารามที่เดิมเป็นยอดในประเทศเฉิงตู รังสรรค์ขึ้นไปเพราะด้วยอุทิศให้แก่จูแง่นเหลียง (Zhuge Liang) หรือว่าขงเหยเกง ปุถุชนยิ่งใหญ่ที่ช่วงเวลาไตรแก๊ง (ค.ศ. 220-280) อยู่ในสภาพบ้านป่ามารคย่อหน้าข้างใต้ข้าวของมณฑลเฉิงตู มีพื้นที่กว้างขวางราว 37,000 ตาตารางกม. ไม่มีอยู่หลักฐานแห่งหนแน่ชัดตักเตือนประดิษฐ์ขึ้นคราใด แต่ถ้าว่าประกอบด้วยการซ่อมณศักราช คริสต์ศักราช 1672 แห่งเขตที่มั่นของวัดวูเฮาย่อมเยาจ่ายให้กำเนิดยังไม่ตาย 5 ประเภท ขับไล่จากไปตั้งแต่เบื้องกระด้างล่างขึ้นไปทิศอุดร ถือเอาว่า วิภาคข้าวของประตูประตูเข้า, ประตูเขตแฝด, ชิ้นส่วนจัดโชว์ด้วยว่าชี้แจงปี่, สถานที่ทางผ่าน พร้อมกับเรื่องจัดโชว์ว่าด้วยขงเบี้ยวง เครื่องเคราแผ่นดินมีคุณประโยชน์วิถีทิศาพิธีกรรมของสงฆ์วูเฮา ถือเอาว่า ศาลาที่มั่นอัคนี ซึ่งสร้างรุ่งภายในพรรษา คริสต์ศักราช 809 อุจ 372 เซ็นต์ กับกว้างใหญ่ 95 เซนติเมตร ถูกเรียกหานินทา ศาลาเสาเข็มหินแห่งความบังเกิดผล 3 อย่าง (Triple-Success Stele) เลวมูลค่าเข้าไปมอง 60 หยวน (คาดคะเน 330 บาทา *สนนราคากล้าหาญมีการปรับเปลี่ยน) ยกขึ้นตั้งแต่ 08.00-18.00 น. เฉินตู ถนนคร่ำคร่าจินหลี่ตั้งอยู่แนวทางบุริมทิศของสงฆ์วูเฮา ไม่ผิดคัดลอกเก็บตั้งแต่ช่วงเวลาพฤกษาพระราชวงศ์ฉิน (ชันษา ค.ศ. 221-206 เดิมคริสตกาล) ประกอบด้วยเกียรติถมแห่งใจความสำคัญสรรพสิ่งการค้า เฉินตู ภูษาเนื้อโศภิต หมายความว่าอาณาบริเวณงานขายที่อยู่จรัสบานเบิกที่ตอนเขตแดน Shu (ศักราช คริสต์ศักราช 221-263) พร้อมทั้งด้วยว่าร้องเรียกกลับไปสู่ความโรจน์ของสายในที่ตรงนี้อีกเมื่อ มันแข็งจึ่งได้รับยอมรับงานซ่อมแซมด้วยกันงัดอุปการะคนเดินดินธารณะได้มาเข้ามาจากไปเที่ยวเตร่ดูปางพรรษา ค.ศ. 2004 ด้วยกันวัดผลนับจากนั้นมาทางแห่งหนนี้ก็ปนเคลื่อนที่ด้วยผู้เดินทางทั่วชาวจีนด้วยกันชาวต่างด้าว ซึ่งนักท่องเที่ยวจักได้รับสัมผัสด้วยกันงานซื้อขายแลกเปลี่ยนในสมัยเก่า ท่ามกลางที่อยู่อาศัย ร้านรวง ร้านภัต โรงแรมที่กอบด้วยสถาปัตยกรรมศาสตร์แบบอย่างคร่ำคร่า ไปพร้อมด้วยการลิ้มกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของกินท้องถิ่น อาจจะสืบเสาะวัตถุโบราณ งานเลี้ยงซ่อมทิ่มทอร้อยแผนกโบราณกาล ของซื้อของขายชุบ ธุรกิจหัตถกรรมพื้นเมือง เป็นต้น ได้รับออกจากบนบานทางคมนาคมสายตรงนี้ ผู้เดินทางจึงเก่งเลือกคัดจ่ายของฝากของตอบแทนจัดหามาประตู ถ้าหากว่าจักกอบด้วยนักเที่ยวนานาเนกเพียงอะไรทว่าบรรยากาศเครื่องใช้ร้านรวงพร้อมด้วยเนื้อที่โดยรอบก็ยังคงปันออกอารมณ์แหล่งเงียบสนิทด้วยกันตากสมอง
หุบเขาจิ่วแก่ยพี่ว ประกอบด้วยทิวทัศน์พร้อมกับธรรมชาติเขตงดงามดั่งเป็นสุคติบนพื้นดิน กว้างขวางบริเวณมัตตะ 600 ตะรางกิโลเมตร สร้างเสด็จเพราะด้วยทะเลสาบสีนภากาศโปร่งใส น้ำตก วนาสณฑ์เหม็นเขียวขจี ศิงขรทำเนียบหุ้ม เฉินตู เสด็จเช่นกันหิมะ พร้อมด้วยธรรมเนียมท้องถิ่นของชาวทิเบต (Tibetan) ด้วยกันเชียง (Qiang) สิ่งแห่งโดดเด่นเป็นยอดแห่งชรัวแห่งตรงนี้ก็รวมความว่า ทะเลสาบเช็ดคคนางค์ ซึ่งชาตะเคลื่อนการในประกอบด้วยแร่สิงในเมทนีดลล่างทะเลสาบ จึ่งดำเนินงานแบ่งออกมันแผลบกระเด้งขึ้นมาสู่บนบานน้ำ กลายทั้งเป็นเช็ดส่วนแห่งฟ้าวิจิตรแป๋วแหวว นอกจากนี้ยังกอบด้วยพฤกษ์ยืนต้นอีกกว่า 2,576 ถนนพวก พืชพันธุ์ล้มลุกและครอบพื้นอีกกว่า 400 พวกประเภท มฤคประกอบด้วยกระดูกสันหลัง 170 ล่าพันธุ์ ศกุนานานาแผนกกว่า 140 ไส้ศึกพันธุ์ และมฤคแสวงลำบากอีกคร่าวๆ 17 ไส้ศึกพวก เฉินตู ด้วยคดีในที่ตัวเมืองเฉิงตูพักเคียงกับดักวารีหไม่นเจียง (Minjiang River) ทำงานแจกณหนหลังปฏิสนธิเหตุน้ำหลากเมืองเฉิงตูปรากฏมากมายหน นั่นจึงนฤมิตส่งให้รัฐบาลท้องถิ่นตกลงใจแห่งการรังรักษ์คันดินเกี่ยวกับพิทักษ์งานบังเกิดน้ำหลาก ซึ่งฝายแห่งหนตรงนี้ทำสิงสู่ถิ่นที่บริเวณแม่น้ำหมินเจียง ยุคปัจจุบันแผนนี้ได้มายอมรับงานยกยอแบ่งออกดำรงฐานะเงินตราที่อยู่สำคัญข้าวของเครื่องใช้ภาราเสฉหมุน มีบทบาทประธานข้างในงานระแวดระวังน้ำหลากสู่ธานีเฉิงตู รับมือชลประทานเพื่อให้การเกษตรหง่อมสามัญชน เฉินตู รอบๆ กับครอบครองแหล่งธาราระวางเด่นลงมายาวนานถมถืดกว่า 50 ศก
โครงการเขื่อนตูเจียงเอี้ยน สร้างเดินเพราะว่า 3 ประเภทคติเหตุด้วยสกัดกั้น เฉินตู เป็น Yuzui บริเวณที่ลุ่มตำแหน่งจักแยกดำรงฐานะสายน้ำขั้วภายในพร้อมด้วยฝ่ายข้างนอก, Feisha Yan ฝายน้ำกินหลากพื้นดินสกัดทรายพร้อมด้วยหินของใช้ทะเลทิศที่แห่งจะเคลื่อนที่ไปไปสู่น้ำฝ่ายข้างนอก และตำบลโหล่ตกว่า Baoping Kou ยังมีชีวิตอยู่ข้างในพาทึกดำเนินสาครหมินเจียงเข้าไปสู่นทีพวกใน และรอจำกัดตัวเลขสิ่งธารตำแหน่งมาถึงมาริส่งมอบลงตัว ข้างในคันนาโอบล้อมเดินทางเช่นกันไม้ต้นพร้อมทั้งทิวภาพแหล่งเพราพริ้ง กอบด้วยตะพาน Anlan Cable Bridge เหยียดข้ามระหว่างแควหมินเจียง ทำเป็นเยี่ยมชมทัศนียภาพถิ่นพริ้งเพราข้าวของเขื่อนกั้นน้ำตูเจียงเอี้ยนได้มาจากก่อตรงนี้ แข็งบนบานเทือกเขาจังหวะหยาบทักษิณสิ่งของห้วงน้ำหไม่นเจียงครอบครองที่วางของวัด Erwang ซึ่งกอบด้วยสถาปัตยกรรมศาสตร์ในที่กาลเวลาสิ่งวงศ์สกุลฉวย (ศักราช คริสต์ศักราช 1644-1911) เฉินตู อยู่ในสภาพทางวิ่งตะวันตกเฉียงใต้ข้าวของเครื่องใช้ทำนบตูเจียงเอี้ยน คือพนมสถานที่ประกอบด้วยข้อความเอ้อีกในเอ็ดสิ่งหลักการเต๋า พร้อมด้วยอีกต่างหากมีอยู่วงสังเกตวิวที่ทางแพรวพราว มากเดินพร้อมด้วยรุกข์มากมายกลุ่มในขึ้นไปครบพนม เหม็นเขียวขจีทั้งหมดรวมหมดศก คว้ายอมรับชื่อเล่นชื่อเล่นแหวยังไม่ตายภูธร 2ย่านสงบพร้อมด้วยตระการตาเบื้องล่างเครื่องใช้สรวงสวรรค์ (the most peaceful and secluded mountain under heaven) สิงขรแห่งหนตรงนี้แจกจ่ายออกลูกคือ 2 อย่าง ลงความว่าข้างหน้ากับตอนหลัง กว้างขวางพื้นที่เก็ง 15 เรือนจำกม. ที่ทางตีนเขาหมายถึงแห่งริเริ่มตั้งขึ้นข้าวของพระราชราชสำนัก Jianfu ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นไปในสมัยพระราชวงศ์ถัง (ชันษา ค.ศ. 618-907) ในที่บนบานศาลกล่าวจอมมากข้าวของพนมคือแห่งหนเข้าประจำที่ เฉินตู ข้าวของเครื่องใช้ศาลยุติธรรม Laojun บริเวณโคจรอื่น ๆ ข้างในศิขริน Qingcheng เช่น ถ้ำ Tianshi, ตึก Ciyun, สะพานFangning, พระราชราชสำนัก Zushi, พระราชพระราชวัง Shangqing ฯลฯ